"คิดถึง"
โรคนี้จะเกิดกับคนที่อ่อนแอ ทางจิตใจขั้นรุนแรง
อาการเบื้องต้นของโรคนี้ เริ่มจากเชื้อพาหะจะเข้ามาใกล้ สร้างความสนิทสนมกัน ตามประสาคนรู้จัก
หลังจากนั้นก็จะส่งผลถึงคลื่นไฟฟ้าในสมอง ซึ่งจะแปรเปลี่ยนคลื่นความถี่
จากความรู้สึกธรรมดาฉันท์เพื่อน พี่ น้อง ให้เป็นตามที่ใจตนเองต้องการ
เมื่อเชื้อโรคได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว จะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งจะแปรตามความสัมพันธ์ที่มีมากหรือน้อย ระหว่างผู้รับเชื้อกับผู้แพร่เชื้อ ยิ่งมีมาก เชื้อก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ไกล
โดยที่สภาพอากาศ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วย ฤดูฝน มีคนโทรมาห่วงว่ากลัวจะเป็นหวัด : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 30%
ฤดูหนาว มีคนสัมผัสมือแก้หนาว : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 70% ฤดูร้อน มีคนชวนไปเที่ยวทะเล : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 25%
อาการของโรคนี้ โดยมากแล้วจะเริ่มจากการคิดเข้าข้างตัวเอง
จากนั้น . . . ก็จะเริ่มมีอาการอ่อนแอทางจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อไปต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
เช่น ตื่นสายเพราะมัวคุย ทางองค์การอนามัยโลก จัดให้ "โรคคิดถึง" เป็นโรคที่อันตรายอีกโรคหนึ่ง
เพราะได้มีผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ติดเชื้อเอง ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์ชั้นนำ ได้ข้อสรุปตรงกันว่า โรคคิดถึง เป็นโรคแพ้ความใกล้ชิด
อาการจะรุนแรงมากหรือน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับตัวผู้รับเชื้อเอง หากจิตใจจิตใจอ่อนแอมากเท่าไหร่
อาการของโรคนี้ก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
ผลกระทบจากโรคนี้ คือ . . . เมื่อเชื้อโรคได้แพร่เข้าสู่หัวใจ โดยทางเส้นเลือดนั้น จะทำให้เกิดอาการท้อแท้
หมดหวัง สิ้นหวัง โทษตัวเอง น้อยใจชีวิต ปัจจุบันนี้ทางการแพทย์ ยังไม่สามารถที่จะหาวัคซีนป้องกันได้
เพราะเนื่องจากเชื้อนี้เป็นไวรัส ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ ทำให้โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นๆ หายๆ
ไม่สามารถระบุได้ว่า จะเป็นอีกเมื่อไหร่ และจะหายเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
แพทย์หลายท่านระบุว่า "เวลา" จะเป็นยารักษาโรคนี้ได้ดีที่สุด