วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

โรคร้ายแรง ต้องระวัง

"คิดถึง"
โรคนี้จะเกิดกับคนที่อ่อนแอ ทางจิตใจขั้นรุนแรง
อาการเบื้องต้นของโรคนี้ เริ่มจากเชื้อพาหะจะเข้ามาใกล้ สร้างความสนิทสนมกัน ตามประสาคนรู้จัก
หลังจากนั้นก็จะส่งผลถึงคลื่นไฟฟ้าในสมอง ซึ่งจะแปรเปลี่ยนคลื่นความถี่
จากความรู้สึกธรรมดาฉันท์เพื่อน พี่ น้อง ให้เป็นตามที่ใจตนเองต้องการ
เมื่อเชื้อโรคได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว จะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งจะแปรตามความสัมพันธ์ที่มีมากหรือน้อย ระหว่างผู้รับเชื้อกับผู้แพร่เชื้อ ยิ่งมีมาก เชื้อก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ไกล
โดยที่สภาพอากาศ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วย ฤดูฝน มีคนโทรมาห่วงว่ากลัวจะเป็นหวัด : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 30%
ฤดูหนาว มีคนสัมผัสมือแก้หนาว : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 70% ฤดูร้อน มีคนชวนไปเที่ยวทะเล : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 25%
อาการของโรคนี้ โดยมากแล้วจะเริ่มจากการคิดเข้าข้างตัวเอง
จากนั้น . . . ก็จะเริ่มมีอาการอ่อนแอทางจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อไปต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
เช่น ตื่นสายเพราะมัวคุย ทางองค์การอนามัยโลก จัดให้ "โรคคิดถึง" เป็นโรคที่อันตรายอีกโรคหนึ่ง
เพราะได้มีผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ติดเชื้อเอง ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์ชั้นนำ ได้ข้อสรุปตรงกันว่า โรคคิดถึง เป็นโรคแพ้ความใกล้ชิด
อาการจะรุนแรงมากหรือน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับตัวผู้รับเชื้อเอง หากจิตใจจิตใจอ่อนแอมากเท่าไหร่
อาการของโรคนี้ก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
ผลกระทบจากโรคนี้ คือ . . . เมื่อเชื้อโรคได้แพร่เข้าสู่หัวใจ โดยทางเส้นเลือดนั้น จะทำให้เกิดอาการท้อแท้
หมดหวัง สิ้นหวัง โทษตัวเอง น้อยใจชีวิต ปัจจุบันนี้ทางการแพทย์ ยังไม่สามารถที่จะหาวัคซีนป้องกันได้
เพราะเนื่องจากเชื้อนี้เป็นไวรัส ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ ทำให้โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นๆ หายๆ
ไม่สามารถระบุได้ว่า จะเป็นอีกเมื่อไหร่ และจะหายเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
แพทย์หลายท่านระบุว่า "เวลา" จะเป็นยารักษาโรคนี้ได้ดีที่สุด

Congratulations!

เย้!....ในที่สุดตัวอักษรต่างๆ ก็ออกมาหมดเสียที
หลังจากนั่งลุ้นกันอยู่น๊านนน ... นาน กันหน้าจอคอมพิวเตอร์

ถึงแม้เรื่องตัวอักษรมันจะไม่สำคัญ
แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะขอแสดงความยินดี
กับเพื่อน 1 เดียวที่ได้มดน้อยไปครอง :D





ขอแสดงความยินดีกับ......





....กับ....





ให้กับ..





เธอคนนี้....






เพื่อนฝน .... จ้าาาา





เธอผู้งดงามในทุกท่วงท่า...





ทุกลีลาของการเม้าท์.....





จะเรียนหรือเล่นก็ไม่มีหวั่น....ฝนสู้ตายค่ะ





เราเห็นเธอตั้งใจกับการเรียน SA เสมอมา
(คนซ้ายไม่เกี่ยว)





ขอแสดงความยินดีให้กับเธออีกครั้ง
ฝนซัง :)




ฮ่าๆๆๆ หลังจากนี้ถ้ามีคนถามว่าเราคือใคร
เราจะตอบไปว่า
เราคือ...

เพื่อนฝน ! .... 555+

(เป็นผู้มีอิทธิพลไปซะแล้วเพื่อนเรา)



สำหรับคนที่พลาดหวัง ขอ...อย่า...ยอม...แพ้...
อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้.... T__T


สู้ๆ

เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลัง แล้วเริ่มต้นใหม่


พระอาทิตย์ตก ... แล้วเดี่ยวมันก็ขึ้นใหม่อีก



ขอกล่าวสวัสดีแก่ทุกท่าน
ขอพล่ามแต่เพียงเท่านี้....จ้ะ




ปล.คำใต้รูปพระอาทิตย์นั้นก้อปคุณวินทร์มา อิอิ รักวินทร์ต้องไปดูปืนใหญ่จอมสลัดนะ จุ๊บๆ

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่องของ ตัวอักษร A B+ B และ C+

สืบเนื่องจากความไม่สบายใจเรื่องเกี่ยวกับ ตัวอักษรดังกล่าว

เป็นเวลา สอง สาม อาทิตย์ หลังที่ได้อ่านเรื่องราว ความเข้าใจของเด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีพื้นฐานความคิดอยู่ที่ว่า พวกเค้าเข้าใจอะไรมากกว่า พวกเค้าจำอะไร ... ตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย มีสติในการจรดปลายปากกาให้คะแนนติดลบ จากการที่ได้อ่านอย่างตั้งใจในการเขียนและกลั่นกรองความเข้าใจของพวกเค้าออกมาเป็นตัวหนังสือ ...

ทุกคนทำได้ดีที่สุดในเวลาขณะนั้น ในบริบทนั้นๆ แม้ว่าเราจะความลำเอียงในการหยิบเอาความคิด คำพูด ความเข้าใจ อากัปกริยา ของพวกเค้าเหล่านั้นมาประกอบการให้คะแนนก็ตาม แต่สิ่งนั้นคือการที่เราพยายามเข้าใจพวกเค้า พยายามเรียนรู้พวกเค้า และเปิดโอกาสให้พวกเค้าได้มีการเรียนรู้ที่ใหม่ๆ แปลก แตกต่างจากที่พวกเค้าได้รับมาตลอดไม่ใช่เหรอ ....

สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่าเราทำอย่างดีที่สุดแล้ว พยายาม แล้ว แต่สิ่งที่จะต้องพบกับความลำบากใจต่อมาคือ ... การรวบรวมคะแนนต่างๆ ที่พวกเค้าได้เก็บเกี่ยวเรียนรู้ตั้งแต่ต้นเทอม จนถึงท้ายเทอม ... คะแนนทุกทุกคะแนน บอกว่าพวกเค้ามีความพยายามกันเพียงไร ... คะแนนที่ได้ออกมาเป็นที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งของอาจารย์คนหนึ่งอย่างเรา ลูกศิษย์ทั้งหมด 17 คนแสดงให้เห็นถึงความพยายามของเขา คะแนนที่ได้ต่ำสุดคือ 75.19 คะแนนที่ได้สูงสุดคือ 85.39 ถ้าเป็นห้องเรียนทั่วๆ ไปที่มีการตั้งกฏเกณฑ์ว่าคะแนน 70-80 ได้ "B" คะแนน 80 ขึ้นไปได้ "A" ลูกศิษย์ของเราจะได้ A ประมาณ 4 คน ได้ต่ำสุดคือ B

แต่แล้วก็บังเกิดความกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเรื่องของการตัดเกรด "คะแนนเฉลี่ยทั้งห้องต้องไม่เกิน 3.25" อยากจะตั้งคำถามถามว่า แล้วใครเป็นคนตั้งกฏเกณฑ์ (....) นี้ (ว่ะ) เนี่ยละนะ พวกที่ยึดติด กับการกดขี่ข่มเหง การไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้มีอิสระ.... อืมมม บ่นไปทำไมเนี่ย...

บทความนี้เขียนขึ้นเนื่องจาก ความรู้สึกอยากบอกว่า A B+ B และ C+ เป็นเพียง ตัวอักษรเท่านั้น .... สิ่งที่ครูอยากบอกคือ ครูเห็นความพยายามของพวกเราทุกคน พวกเรามีการพัฒนาที่ดีมากมากในเรื่องราวการเรียนรู้ต่างๆ ครูรู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์ที่แม้มันจะไม่หนามากนักแต่ทว่ามันเต็มไปด้วยสายใยที่หลอมรวมพวกเราไว้ด้วยกัน ว่างๆ กระตุกสายสัมพันธ์นี้ให้เข้าใกล้กันบ้างนะคะ ครูเชื่อมั่นเหลือเกินว่าพวกเราจะต้องเป็นคนที่ดี เป็นคนที่มีศักยภาพที่ดีในอนาคต นะคะ

ครูขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้ ตัวอักษร A ไปครอบครอง (หนึ่งคนจาก 17 คน) ครูขอให้กำลังใจและบอกว่า คนที่ได้ C+ ทั้งสองคน ไม่ได้เก่งน้อยกว่าคนอื่น ไม่ได้เข้าใจอะไรน้อยกว่าคนอื่น ไม่ได้พยายามน้อยกว่าคนอื่น ครูรู้สึกและรับรู้ได้ถึงความพยามยาม การเปลี่ยนแปลงสู่การเรียนรู้ของพวกเราทุกคนเท่าๆ กัน.... หากแต่ตัวอักษรทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ ...

สุดท้ายครูขอปรบมือ แสดงความชื่นชมยินดีกับพวกเราทั้ง 17 คน ที่ได้รับรู้ เปลี่ยนแปลง เรียนรู้ กับ Class SASD08 นี้ ขอบคุณทุกคนที่สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกัน ... คลาสนี้จะเป็นอีกคลาสหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของครูคะ

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ .... จะรอคอยดูความสำเร็จของพวกเราทุกทุกคนด้วยความห่วงใย...

ปล. รูปทั้งสองรูปนั้น ติดไว้หน้าบ้าน ไม่มีใครมารบกวนเลย คะ .... (ล้อเล่น) รูปสวยทั้งสองรูป ครูเก็บไว้ในใจตลอดเวลาคะ

อาจารย์จงดี

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ด้วยรักและคิดถึง

ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด ผมขอฝากที่นี้ให้น้องๆช่วยดูแลด้วย (ตึ๊งโป๊ะ)
แต่จริงๆก็ไม่มีอะไรจะพูดนั้นแหละ เพราะความรู้สึกมันบรรยายออกมาไม่ได้ มันตื้นตัน สุดแสนประทับใจ และอยากให้ทุกคนเก็บความรู้สึกนั้นไว้ตลอดไป อาจมีมุมมองที่ต่างกัน แต่เรามีประสบการณ์ร่วมกัน จงทำวันนี้ให้เมื่อพรุ่งนี้เรากำลังจะตาย Too old to die Too young to learn (คืออยากพูดอะไรเท่ๆ แต่คิดไม่ออกเลย เอาที่คนเคยๆพูดมาเลียนแบบ อิอิ) เอาเป็นว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้มีเวลาร่วมกัน หัวเราะด้วยกัน ประทับใจด้วยกัน รักษามันไว้นะเพื่อนๆ
และต่อจากนี้จะเป็นการทิ้งทวนความรู้สึกที่มีให้กัน ผ่านภาพที่จะแสดง แต่ขอไม่บรรยายภาพ เพราะทุกคนแค่ดูภาพก็จะนึกถึงวันเวลาเหล่านั้นได้อยู่แล้ว รักและคิดถึง ^o^