ว่าง ๆ ลองสำรวจดูใจของคุณว่ามีลักษณะเช่นนี้หรือไม่? เป็นคนใจอ่อน ใจง่าย ไม่หนักแน่น ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด เป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด มักทำอะไรเพื่อตามใจคนอื่นมากกว่าที่จะทำเพราะความพอใจตนเอง หรือทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องควรจะเป็น ใจของคุณจึงตกอยู่ใต้อิทธิพลของคนรอบข้างเสมอ ถ้ายิ่งมีจุดอ่อนมากเท่าใด ก็ยิ่งตกเป็นเครื่องมือของคนอื่นมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น พ่อแม่ที่ใจอ่อน ก็จะตกอยู่ใต้อิทธิพลของลูก ลูกจะเอาอะไรก็ต้องสรรหามาให้ วัยรุ่นที่ใจอ่อนก็ต้องคอยตามใจเพื่อน เพื่อนจะชักจูงให้ทำอะไรก็ทำตาม คนใจอ่อนเมื่อทำงานก็คงเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ได้ เพราะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ถ้าเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี จึงจะเลิกเป็นคนใจอ่อนให้ใคร ๆ หลอก ให้เป็นทาสรับใช้ของเขาตลอดไป คงจะต้องเริ่มต้นด้วยการค้นหาจุดอ่อนของตัวคุณเองให้พบเสียก่อน แล้วจึงทำการแก้ไข คุณที่รู้ตัวว่าเป็นคนใจอ่อน ลองสำรวจตัวเองว่ามีจุดอ่อนดังต่อไปนี้หรือไม่
1. คุณมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจ ความรู้สึกผิดนี้เองเป็นจุดอ่อนที่ทำให้คุณพยายามทำในสิ่งต่าง ๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิด เช่น พ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกจะรู้สึกผิดที่ทำหน้าที่ของพ่อแม่บกพร่องไม่ครบถ้วน ไม่สมบูรณืแบบจึงชดเชยด้วยการปรนเปรอลูกด้วยสิ่งของหรือตามใจมากเกินไปจนลูกเคยตัวและเสียนิสัย ทั้งที่ความจริงแล้ว พ่อแม่ไม่ได้เจตนาจะสร้างนิสัยเช่นนั้นให้กับลูก
2. คุณกลัวความขัดแย้งและกลัวว่าคนอื่นจะโกรธ กลัวคนอื่นจะไม่พอใจ ความกลัวแบบนี้เป็นจุดอ่อนทำให้คุณต้องเป็นฝ่ายยอมให้คนอื่นอยู่ร่ำไป ไม่กล้าขัดใจใคร ทั้งที่บางครั้งก็เป็นเรื่องที่คุณต้องฝืนใจอย่างที่สุด เช่นภรรยาที่สงสัยว่าสามีจะนอกใจ แต่ไม่กล้าซักถามเพราะกลัวสามีโกรธพาลทะเลาะกันให้อายลูก ๆ อายคนในบ้านใกล้เรือนเคียง เลยต้องทนทุกข์ระทมขมขื่นอยู่คนเดียว อย่างนี้เป็นต้น
3. คุณเป็นคนขี้สงสาร ใครมาขอให้ช่วยก็ช่วยเขาไปหมด ใครมาเล่าความทุกข์ความลำบากให้ฟังก็เชื่อเขาง่าย ๆ ให้เงินเขาไปง่าย ๆ โดยไม่ทันพิจารณาก่อนว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ บางคนมีจุดอ่อนที่เห็นน้ำตาเป็นไม่ได้ เช่นลูกร้องไห้อยากได้ของเล่นก็ต้องรีบหาซื้อให้ เพราะแพ้น้ำตาของลูก หรือคนที่เรารัก
4. คุณเป็นคนชอบคำเยินยอชอบให้ใครมาปรนนิบัติเอาใจ ใครมาทำดีกับคุณพูดดีกับคุณหน่อย คุณก็ยอมเขาไปหมดโดยไม่หยุดคิดเลยว่าคนนั้นเขาจริงใจกับคุณแค่ไหน ถ้าคุณมีจุดอ่อนแบบนี้ คุณจะถูกหลอกใช้หรือถูกหลอกเอาทรัพย์สินไปได้ง่ายมาก
5. คุณกลัวคนอื่นจะไม่ชอบคุณ เป็นความจริงที่คนหลาย ๆ คนกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะเป็นคนที่ไม่มีใครรัก ไม่มีใครชอบ ไม่มีเพื่อนเลยต้องพยายามตามใจคนอื่นให้มากเข้าไว้เพื่อเขาจะได้พอใจ ชอบใจและไม่เกลียดคุณ แต่จุดอ่อนแบบนี้จะทำให้คุณต้อสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป
6. คุณกลัวภัยอันตราย นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญ ถ้าคุณเป็นคนขวัญอ่อนถูกใครข่มขู่เข้าหน่อย กลัวมาก บางครั้งคุณจึงต้องยอมทำตามคำขู่มากกว่าจะกล้าทำในสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
7. คุณกลัวเพื่อนร่วมงานของคุณจะไม่พูดด้วย เพราะบางคนให้ความสำคัญกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งมากจนเกินไป จึงต้องคอยตามใจเพื่อนกลัวว่าถ้าทำให้เพื่อนโกรธแล้วเพื่อนจะไม่พูดด้วย ตามความเป็นจริงแล้วเพื่อนนั้นมีหลายคน ถ้าไม่พูดด้วยสักคนก็ไม่เห็นน่าจะเดือดร้อนที่ตรงไหน ทำตัวตามสบายดีกว่า หายโกรธแล้วก็คงพูดกันเองคบกันเป็นเพื่อนต่อไปได้
8. คุณไม่กล้าที่จะทำสิ่งที่แตกต่างไปจากคนอื่นเพราะกลัวว่าจะทำผิด จุดอ่อนนี้จะทำให้คุณต้องเป็นผู้ตามไปตลอดชีวิต คุณคงลืมคิดไปว่า บางครั้งสิ่งที่คนอื่น ๆ เขาทำกันนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอไปก็ได้ ถ้าคุณเอาแต่คล้อยตามเขาไปโดยไม่คิด คุณก็อาจจะพลอยทำผิดตามไปด้วย และที่สำคัญคุณจะไม่มีความภาคภูมิใจ และไม่มีศักดิ์ศรีในตัวเองเลย จุดอ่อนที่ทำให้คุณเป็นคนใจอ่อนทั้ง 8 ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คุณอยู่ในข้อไหนบ้าง ถ้าไม่มีเลยคุณก็เป็นคนใจแข็งอย่างน่าชมเชย แต่ถ้าคุณเป็นคนใจอ่อน ก็อย่าเพิ่งตกใจ ยังมีทางแก้ไขได้ดังนี้ คุณลองถามใจของคุณดูว่า คุณมีความสุขดีอยู่หรือที่ต้องยอมฝืนใจตัวเอง แล้วตามใจใครต่อใครอยู่เรื่อย ๆ คุณชอบหรือที่จะให้ใคร ๆ หลอกใช้คุณ หรือมีอิทธิพลเหนือคุณ ถ้าคุณไม่ชอบ ไม่พอใจ และไม่มีความสุข คุณจะมีวิธีปฏิเสธไม่ยอมตามใจใครอย่างไร เช่น ถ้าลูกคุณร้องไห้รบเร้าให้ซื้อของเล่น คุณจะรีบเดินหนีไปที่อื่น หรือถ้าเพื่อนชวนหนีโรงเรียน คุณจะปฏิเสธว่าไม่ไปเพราะไม่ชอบ เป็นต้น เมื่อคิดวางแผนแล้วว่าจะพูดจะทำอย่างนี้แล้ว ก็ควรทำให้ได้ตามที่คิดไว้ด้วย เมื่อทำครั้งนี้สำเร็จ คุณจะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองที่ไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจใคร รู้สึกว่าศักดิ์ศรีคุณกลับมาอีกครั้งหนึ่ง จำความรู้สึกนี้ไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณไม่ใจอ่อนอีกในคราวหน้า คุณต้องไม่ลืมว่า คนที่ใจอ่อนชอบตามใจคนอื่นถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ใคร ๆ ชอบก็จริง แต่ก็จะเป็นคนที่ไม่มีใครเกรงใจ เพราะฉะนั้นเลิกใจอ่อนเสียที ทำตัวให้คนอื่นเกรงใจดีกว่า คนอื่นอาจชอบคุณน้อยไปหน่อย แต่ก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นคน เป็นตัวของตัวเองดีกว่าเป็นไหน ๆ
4 ความคิดเห็น:
ตามทฤษฎีของจิตวิทยาเนี่ย
อาการเหล่านี้เป็นต้นเหตุของสุขภาพจิตคนเรา ซึ่งมีการขัดแย้งภายในจิตใจ อันต้องทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้สามารถหลุดพ้นความทุกข์ภายในจิตใจไปได้ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถทำได้เนี่ย จะทำให้ความรู้สึกนั้นถูกเก็บกดไว้ในใจ และทำให้เกิดปัญหาทางจิตต่อมา
เหอๆๆ...ตอนนี้กำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้าหรือป่าว บ่นอารายของเทอเนี่ย ไปดีกว่า >o<
ก็มีบ้างนะที่บางครั้งเราต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง
เพื่อให้คนที่อยู่รอบข้างเรามีความสุขและสบายใจ
ถึงเราจะต้องทุกข์ใจอยู่คนเดียวก็ตาม แต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ ว่าแต่จะหามันเจอหรือเปล่าเท่านั้น
แต่เห็นด้วยกับการที่เราทำตามคนอื่นๆ มากเกินไปทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้อง กลายเป็นทำผิดๆ ตามๆ กันมา
ตัวอย่างเช่น สัมมนาไง ... รู้สึกว่าแสดงความคิดเห็นมากไปล่ะไปดีกว่า 555
อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้นึกถึง ... คำพูดของคนคนหนึ่ง... ว่า ใจของเร็วเปลี่ยนได้เร็วมาก ดังนั้นหากจะให้มีความสุข ก็จงทำใจให้สงบ ... ว้าว ... สงบยังไงล่ะ ยาก โค ตะ ระ เลย ...
หลังจากนั้นไม่นาน มีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า ไม่ต้องบังคับใจ ไม่ต้องไปเพ่งให้ใจสงบ เพียงแต่ "ตามรู้" ให้ทำแค่เพียงว่า ..."ใจเป็นอย่างไร รู้ไปอย่างนั้น" อืม ก็เลยถึงบางอ้อ ว่า เอาให้เราอยู่กับปัจจุบันและตามรู้สิ่งที่มันเกิดขึ้น ... รู้ว่าโกรธ รู้ว่ากลัว รู้ว่ารัก รู้ว่าอะไร ... อย่างนี้ แหละ คือการอยู่กับปัจจุบัน ...
ขอบคุณ พี่แบงค์ ที่โพสต์มาแบ่งปันนะจ้ะ ....
มันสื่อถึงชีวิตจริงของมันแน่ๆ
แสดงความคิดเห็น